ทีมสุดซอย ลุยตรวจ 2 โรงงานเหล็กปราจีนฯ พบผิดหลายข้อหา สั่งอายัดเศษเหล็กนำเข้าปนเปื้อน

02 พฤษภาคม 2568
ทีมสุดซอย ลุยตรวจ 2 โรงงานเหล็กปราจีนฯ พบผิดหลายข้อหา สั่งอายัดเศษเหล็กนำเข้าปนเปื้อน

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม (ทีมสุดซอย) บูรณาการการทำงานร่วมกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม, สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม, สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ไทยซิง สตีล จำกัด และ บริษัท หยงซิง สตีล (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ์ จ. ปราจีนบุรี เพื่อตรวจติดตามว่าดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนด และผลิตภัณฑ์ไปตามมาตรฐานหรือไม่

“ได้รับรายงานว่าทั้ง 2 โรงงานไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ข้อกำหนด ทั้งเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ได้ให้คำแนะนำเพื่อแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้อง และดำเนินคดีกรณีใช้เครื่องจักรไม่ตรงตามที่ขออนุญาตไว้ รวมถึงประกอบกิจการคัดแยกเศษเหล็กขยะอิเล็กทรอนิกส์ และอัดเศษเหล็กนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ส่วนมาตรฐานผลิตภัณฑ์เหล็กนั้น ทาง สมอ.ได้เก็บตัวอย่างเพื่อนำไปตรวจสอบร่วมกับ สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (สลท.) โดยละเอียดต่อไป” นายเอกนัฏ กล่าว

ด้าน น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบพบว่า บริษัท ไทยซิง สตีล จำกัด ประกอบกิจการผลิตเหล็กลวด และเหล็กรูปพรรณ กำลังการผลิตขนาด 5,873 ตัน/วัน พบกองกากของเสียจากระบบบำบัดน้ำหล่อเย็นในกระบวนการผลิตไม่เป็นไปตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้สั่งและแนะนำให้แก้ไขปรับปรุง

ส่วนบริษัท หยงซิง สตีล (ไทยแลนด์) จำกัด ประกอบกิจการผลิตเหล็กแท่ง และผลิตภัณฑ์จากเหล็กลวด เช่น ลวดเชื่อม ตะปู ตะแกรงไวร์แมช ขนาด 3,060 ตันต่อวัน พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรายการเครื่องจักร โดยไม่มีการแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังพบการตั้งและประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับกากอุตสาหกรรมลำดับที่ 64, 105 และ 106 โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีบทกำหนดโทษ 2 ข้อหาตาม พ.ร.บ.โรงงาน ต้องระวางโทษแต่ละข้อหา จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ยังพบมีการนำเข้าวัตถุดิบเศษเหล็กที่ปะปนกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกจากต่างประเทศ จึงได้ทำการยึดอายัดกองเศษเหล็กทั้งหมดกว่า 40,000 ตันเพื่อตรวจสอบ โดยได้ลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี รวมทั้งแจ้งข้อหาครอบครองขยะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีบทกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนมาตรฐานผลิตภัณฑ์เหล็กของโรงงานต้องรอผลการตรวจทดสอบจากสถาบันเหล็กฯ อีกครั้ง

“ทีมสุดซอยลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบซ้ำ และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะขณะนี้ที่มีประเด็นเกี่ยวกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์เหล็กตามนโยบาย รมว.อุตสาหกรรม ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการผลิตภัณฑ์เหล็กไม่ได้มาตรฐาน ปราบขบวนการธุรกิจศูนย์เหรียญให้สิ้นซาก เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าว


แหล่งที่มา : อินโฟเควสท์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.